ครรภ์เป็นพิษคืออะไร? อาการและการป้องกันที่คุณต้องรู้

  •  23 ธ.ค. 67

หนึ่งในภาวะที่สำคัญและต้องเฝ้าระวังคือ ครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia) การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพทั้งของตัวเองและทารกในครรภ์มากเป็นพิเศษ เพราะการดูแลสุขภาพในช่วงนี้ไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารก แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นเป็นภาวะที่เกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งมักเกิดขึ้นหลังสัปดาห์ที่ 20 โดยสาเหตุหลักคือความดันโลหิตสูงที่ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะในร่างกาย เช่น ไต ตับ และสมอง หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจส่งผลร้ายแรงทั้งต่อคุณแม่และทารก ในบทความนี้ เราจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงอาการ สาเหตุ และวิธีป้องกัน ครรภ์เป็นพิษ พร้อมทั้งแนะนำการดูแลสุขภาพในช่วงตั้งครรภ์ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น

ครรภ์เป็นพิษคืออะไร?

ครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia) คือภาวะแทรกซ้อนที่พบในหญิงตั้งครรภ์ โดยมีลักษณะสำคัญคือความดันโลหิตสูง และการทำงานของอวัยวะภายใน เช่น ไตและตับ ที่ผิดปกติ ภาวะนี้มักเกิดขึ้นในช่วงหลังสัปดาห์ที่ 20 ของการตั้งครรภ์ และพบได้มากขึ้นในหญิงตั้งครรภ์ครั้งแรก

ลักษณะสำคัญของภาวะครรภ์เป็นพิษ

  • ความดันโลหิตสูงเกิน 140/90 มม.ปรอท
  • การมีโปรตีนในปัสสาวะ (Proteinuria) ซึ่งบ่งบอกถึงการทำงานของไตที่ผิดปกติ
  • การบวมที่มือ ใบหน้า และเท้า

หากไม่ได้รับการรักษา ครรภ์เป็นพิษ อาจพัฒนาไปสู่ภาวะที่รุนแรงขึ้น เช่น ภาวะชักในครรภ์ (Eclampsia) ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิต

อาการของครรภ์เป็นพิษ

การสังเกตอาการที่ผิดปกติในระหว่างตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญ อาการที่พบได้ในภาวะครรภ์เป็นพิษ ได้แก่

  • ความดันโลหิตสูง: โดยเฉพาะค่าที่สูงกว่า 140/90 มม.ปรอท
  • บวมผิดปกติ: บวมที่มือ ใบหน้า และเท้า ซึ่งไม่ลดลงหลังพักผ่อน
  • ปวดศีรษะรุนแรง: อาการปวดศีรษะที่ไม่บรรเทาด้วยยา
  • การมองเห็นผิดปกติ: เช่น เห็นจุดดำหรือภาพเบลอ
  • ปวดท้องบริเวณใต้ชายโครงด้านขวา: ซึ่งอาจเกิดจากการทำงานของตับที่ผิดปกติ

เมื่อไรควรพบแพทย์?

หากคุณแม่พบอาการดังกล่าวร่วมกัน หรือรู้สึกว่าร่างกายผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการตรวจและวินิจฉัยอย่างเหมาะสม
 

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของครรภ์เป็นพิษ

แม้ว่าสาเหตุที่แท้จริงของครรภ์เป็นพิษยังไม่ชัดเจน แต่นักวิจัยพบว่ามีหลายปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้

สาเหตุที่อาจเป็นไปได้

  • การพัฒนาของ รก (Placenta) ที่ผิดปกติ ส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดระหว่างแม่และทารก
  • การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ

ปัจจัยเสี่ยง

  • การตั้งครรภ์ครั้งแรก คุณแม่ตั้งครรภ์ครั้งแรกมีโอกาสเกิดครรภ์เป็นพิษมากขึ้น
  • อายุแม่ตั้งครรภ์ อายุที่น้อยกว่า 20 ปี หรือมากกว่า 35 ปี
  • โรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคไต
  • ประวัติครอบครัว หากคนในครอบครัวมีประวัติครรภ์เป็นพิษ
  • การตั้งครรภ์แฝด มีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระบบไหลเวียนเลือดที่มากขึ้น

วิธีการป้องกันครรภ์เป็นพิษ

แม้ว่าครรภ์เป็นพิษอาจไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด แต่การดูแลสุขภาพในช่วงตั้งครรภ์สามารถลดความเสี่ยงได้

  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ: เข้าพบแพทย์ตามนัดหมายเพื่อตรวจความดันโลหิตและสุขภาพโดยรวม
  • ควบคุมอาหาร: ลดการบริโภคเกลือ น้ำตาล และไขมันสูง เน้นทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และโปรตีน
  • ออกกำลังกายเบา ๆ: เช่น เดินหรือโยคะสำหรับคนท้อง เพื่อช่วยเสริมการไหลเวียนโลหิต
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับอย่างเพียงพอช่วยลดความเครียดและความดันโลหิต
  • หลีกเลี่ยงสารเสพติด: เช่น การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์

ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอาหารเสริม: หากมีความเสี่ยงสูง แพทย์อาจแนะนำยาหรืออาหารเสริมที่ช่วยลดความดันโลหิต

การดูแลเมื่อมีภาวะครรภ์เป็นพิษ

หากได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะครรภ์เป็นพิษ การรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ

  • การให้ยาลดความดันโลหิต เพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน
  • การดูแลอย่างใกล้ชิด คุณแม่อาจต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ติดตามอาการ
  • การคลอดก่อนกำหนด ในกรณีที่อาการรุนแรง การคลอดก่อนกำหนดอาจเป็นทางเลือกเพื่อความปลอดภัยของแม่และทารก

ผลกระทบต่อแม่และทารก

ผลกระทบต่อแม่

  • ความเสี่ยงในการเกิด ภาวะชัก หรือ ภาวะเลือดออกผิดปกติ
  • ความดันโลหิตสูงเรื้อรังหลังคลอด

ผลกระทบต่อทารก

  • การเจริญเติบโตที่ช้าหรือไม่สมบูรณ์
  • ความเสี่ยงในการเกิด ภาวะคลอดก่อนกำหนด

สรุป

ครรภ์เป็นพิษ คือภาวะที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในช่วงตั้งครรภ์ การดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม การตรวจสุขภาพเป็นประจำ และการสังเกตอาการผิดปกติคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยง คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ทันทีหากพบอาการผิดปกติ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและทารกในครรภ์